Facebook ยอมรับว่าหลายคนพูดว่า ปัญหาด้านกฎระเบียบอาจกลายเป็นอุปสรรคในการเปิดตัวโครงการสกุลเงินคริปโต Libra ทั่วโลก
มีการเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาในรายงานประจำไตรมาสล่าสุดของบริษัทต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) บริษัทกล่าวว่ากำแพงหลักหลายประการที่ต้องเผชิญหน้ากับการควบคุมเทคโนโลยีใหม่ที่มีกฎเกณฑ์ไม่ชัดเจนทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก นั่นหมายความว่า “ไม่สามารถรับประกันได้ว่า Libra หรือผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องของเราจะพร้อมให้บริการในเวลาที่เหมาะสมหรือไม่เกิดขึ้นเลย”
“การมีส่วนร่วมในสมาคม Libra Association ทำให้เราต้องตรวจสอบกฎระเบียบและความเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจส่งผลเสียต่อธุรกิจ ชื่อเสียง หรือ ผลลัพธ์ทางการเงิน” Facebook กล่าว
และไม่เพียงแต่ Libra “ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่และยังไม่ผ่านการพิสูจน์ใช้งาน” แล้ว กฎหมายและการควบคุมสกุลเงินดิจิทัลนั้น “ไม่มีความแน่นอนและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา”
“Libra ถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากรัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินต่าง ๆ ในหลายเขตอำนาจศาล และเราคาดว่าการตรวจสอบอย่างละเอียดยังคงดำเนินต่อไป” Facebook ระบุเอาไว้ในเอกสารยื่นต่อ SEC
ตามที่บริษัทกล่าวถึง โครงการ Libra จะทำให้ผู้ใช้งาน Facebook นับพันล้านคนยอมรับใช้งานคริปโตอย่างกว้างขวาง อาจสร้างความโกลาหลให้กับหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินต่าง ๆ ทั่วโลก
ธนาคารกลาง รัฐบาล รัฐมนตรี และหน่วยงานเฝ้าระวัง ต่างจ้องจับผิดและเรียกร้องขอข้อมูลโครงการเพิ่มเติมท่ามกลางความกลัวว่าจะเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพทางการเงินและส่งผลกระทบต่อธนาคารกลาง และอาจเป็นช่องทางการฟอกเงินและการหลอกลวงทั่วโลก
กลุ่มประเทศ G7 ได้จัดตั้งหน่วยงานเพื่อตรวจสอบปัญหาเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตขึ้น แต่มุ่งเน้น Libra อย่างจริงจัง ได้ข้อสรุปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมแล้วว่า กฎระเบียบในการควบคุมโครงการต้องมี “มาตรฐานสูงสุด”
หลายคนรวมถึงประธานกรรมาธิการด้านบริการทางการเงินของรัฐสภาสหรัฐฯ ด้วย ก็เรียกร้องให้หยุดพัฒนาโครงการจนกว่าข้อกังวลต่าง ๆ จะถูกคลี่คลายเสียก่อน
Facebook ยังกล่าวในเอกสารอีกว่า
กฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ เหล่านี้ รวมถึงการซักถามและการไต่สวน อาจทำให้เกิดความล่าช้า หรือกลายเป็นอุปสรรคต่อการเปิดตัวสกุลเงิน Libra รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของเราจะมีต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น จำเป็นต้องใช้เวลาและการดูแลเป็นพิเศษ มิฉะนั้น จะสร้างความเสียหายต่อธุรกิจของเรา
ความไม่แน่ใจของบริษัทเกี่ยวกับความอยู่รอดของโครงการที่ไม่สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบต่าง ๆ ได้ทั้งหมด ความไม่แน่นอนของLibra ที่ใกล้ออกมาจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมนั้นเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สับสน และการขาด “ประสบการณ์เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนก่อนหน้านี้” ก็เช่นเดียวกัน
สิ่งเหล่านี้ อาจ “ส่งผลกระทบต่อความสามารถของเราในการพัฒนา วางตลาดผลิตภัณฑ์และบริการเหล่านี้ให้สำเร็จ”
ดูเหมือนว่า Facebook มีความกังวลต่อโครงการยักษ์ใหญ่ที่มีศักยภาพนี้มาก โดยสรุปในเอกสารว่า
นอกจากนี้เราต้องใช้ต้นทุนค่าใช้จ่ายต่อการมีส่วนร่วมในสมาคม Libra Association มากขึ้น รวมถึงการพัฒนาและการทำการตลาดผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง และการลงทุนของเราอาจไม่ประสบความสำเร็จ เหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อธุรกิจ ชื่อเสียง หรือผลลัพธ์ทางการเงินของเรา
ที่มา : coindesk.com
