นักเศรษฐศาสตร์คนสำคัญระดับโลก ให้เครดิตกับ Libra ของ Facebook ว่า จะผลักดันให้โลกหันมาพิจารณาเงินดอลลาร์สหรัฐ (United States dollar, USD) เป็นสกุลเงินหลัก
เมื่อวันที่ 23 มกราคม เวทีสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum, WEF) ที่เมืองดาวอส ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ทางการเงินได้หารือหนึ่งในกลไกที่สำคัญมากในระบบการเงินโลก ที่ผลักดันให้เงินดอลลาร์สหรัฐกลายเป็นสกุลเงินสำรองของทั่วโลก
Libra กระตุ้นสกุลเงินดิจิทัลแห่งอนาคต
เวทีหัวข้อ “Challenging the Dominance of the Dollar” หรือ การท้าทายอำนาจของดอลลาร์ เวทีอภิปรายมุ่งเน้นปัจจัยต่าง ๆ ที่จะผลักดันให้เงินดอลลาร์สหรัฐเป็นระบบการชำระเงินและสกุลเงินสำรองของโลก รวมถึงความจริงที่ว่า ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ต่างพยายามลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ
บนเวทีมีผู้ร่วมอภิปราย ได้แก่ Paulo Guedes รัฐมนตรีเศรษฐกิจของบราซิล Gita Gopinath หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ IMF เวทีดำเนินรายการโดย Adam Tooze ผู้อำนวยการสถาบัน European Institute จากมหาวิทยาลัย Columbia University นอกจากนี้ยังมีผู้ร่วมอภิปรายคนอื่น ๆ อีก ได้แก่ Mario Centeno รัฐมนตรีคลังของโปรตุเกส และ Zhu Ning ศาสตราจารย์ด้านการเงินจากมหาวิทยาลัย Tsinghua University
Gopinath ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ IMF เปิดประเด็นอภิปรายมองว่า โครงการ Libra สกุลเงินดิจิทัลของ Facebook จะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ทุกคนจากวงการเงินโลกหันมามองเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินหลัก
รัฐมนตรีเศรษฐกิจของบราซิล สนับสนุนความเห็นดังกล่าว มองว่า เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง บล็อกเชน (Blockchain) กำลังปูทางสู่สกุลเงินแห่งอนาคตให้เป็นดิจิทัล
ดังนั้น เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นแล้ว ทั้งเรื่องดิจิทัล บล็อกเชน…กรณีของ Libra กำลังกระตุ้นสกุลเงินดิจิทัลแห่งอนาคต
ดอลลาร์สหรัฐ ยังคงน่าสนใจอยู่
Gopinath คิดว่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงน่าสนใจอยู่ หนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐน่าสนใจก็คือ ความน่าเชื่อถือและเสถียรภาพ
“ทำไมเงินดอลลาร์มีอิทธิพลเช่นนี้? อาจเพราะว่ามันเป็นสกุลเงินที่มีเสถียรภาพและปลอดภัยที่สุด…มันสมเหตุสมผลที่คุณถือครองมันไว้เมื่อมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น มันก็ยังมีมูลค่าอยู่”
โครงการสกุลเงินดิจิทัลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบการเงินโลก
จริง ๆ แล้ว นักเศรษฐศาสตร์เวที WEF ต่างยอมรับว่า Libra ของ Facebook ได้ผลักดันให้หน่วยงานทั่วโลกหันมาทบทวนแนวทางของพวกเขาต่อสกุลเงินสำรองของโลก ถือเป็นการตอกย้ำถึงสถานะของเทคโนโลยีฟินเทคที่กำลังอุบัติขึ้น รวมถึงบล็อกเชนด้วย
ที่มา : cointelegraph.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต