Wednesday, April 17, 2024
Homeข่าวสาร คริปโตข่าวต่างประเทศการยอมรับคริปโตในแอฟริกาบูมมาก เกรงกันว่าจะมีการออกกฎระเบียบที่เข้มงวดตามมา

การยอมรับคริปโตในแอฟริกาบูมมาก เกรงกันว่าจะมีการออกกฎระเบียบที่เข้มงวดตามมา


ปี 2020 แอฟริกายอมรับคริปโตกันมากขึ้น กลายเป็นภูมิภาคเศรษฐกิจเกิดใหม่ซื้อขายคริปโตแบบเพียร์ทูเพียร์ (P2P) สูงสุดเป็นอันดับสองของโลก และชาติแอฟริกาสองประเทศติดอันดับหนึ่งในแปดอันดับที่ยอมรับใช้งานคริปโตสูงสุด (จากการวิจัยของ Chainalysis)

ทั้งนี้ การเติบโตอย่างเฟื่องฟูดึงดูดให้หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินในแอฟริกาเกิดความกังวลขึ้น อาจเร่งให้เกิดการพิจารณาออกกฎเกณฑ์ควบคุมอย่างเข้มงวด แล้วอาจขัดขวางนวัตกรรมอุตสาหกรรมคริปโตในท้องถิ่นได้

ไนจีเรียเป็นผู้นำบูมมากในปี 2020 มีปริมาณซื้อขายแบบเพียร์ทูเพียร์ (P2P) ราว $5 ล้านเหรียญ ถึง $10 ล้านเหรียญต่อสัปดาห์ ตามมาด้วยเคนยาและแอฟริกาใต้ มีปริมาณซื้อขายราว $1 ล้านเหรียญ ถึง $2 ล้านเหรียญ ต่อสัปดาห์

ตัวแทนของตลาดแบบเพียร์ทูเพียร์ (P2P) อย่าง Paxful ยืนยันกับทาง Cointelegraph ว่า ทวีปแอฟริกาเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่สุดในปี 2020 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเศรษฐกิจขนาดเล็กอย่าง กานาและแคเมอรูน บูมมาก ๆ

ขณะที่ตลาดแบบรวมศูนย์ (CEX) ปริมาณซื้อขายพบว่าเพิ่มขึ้นสูงมากเช่นกัน Luno รายงานว่า เมื่อเดือนที่แล้วปริมาณซื้อขายจากไนจีเรียและแอฟริกาใต้ รวมกันมูลค่าสูงถึง $549 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบกับต้นปี 2020 ตลาดฯ บอกว่า ลูกค้าที่ลงทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้น 122% จากไตรมาส 4 ของปี 2019 ถึงไตรมาส 2 ของปี 2020

คุณ Marius Reitz ผู้จัดการทั่วไปของ Luno ในแอฟริกา บอกกับทางสำนักข่าวธุรกิจ Quartz ว่า ความต้องการคริปโตที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ธนาคารท้องถิ่นได้ประโยชน์จากสกุลเงินเสมือน

คุณ Reitz บอกว่าสินทรัพย์คริปโตได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่ทำงานต่างในประเทศแล้วส่งเงินกลับประเทศบ้านเกิดของตน เนื่องจากค่าธรรมเนียมส่งเงินตราต่างประเทศสูงมากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์คริปโต นั่นเอง

ความต้องการที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นผลจากความท้าทายจากประสบการณ์ของคนทั่วแอฟริกา

BuyCoins ตลาดซื้อขายคริปโตในลากอส ยังพบว่า “ผู้คนกำลังย้ายเงินเข้าและออกจากประเทศ” เพิ่มขึ้นมาก ปริมาณซื้อขายคริปโนตลาดฯ สูงถึง $110 ล้านเหรียญในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก $28 ล้านเหรียญทั้งหมดในปี 2019

ทั้งนี้ ความนิยมคริปโตที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีการออกกฎระเบียบที่เข้มงวดมากกว่าเดิม ฝ่ายนิติบัญญัติมีความเห็นว่าจะต้องหาแนวทางตอบสนองต่อคริปโตให้เหมาะสมที่สุด

ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของแอฟริกาใต้เสนอกฎระเบียบและข้อกำหนดในการออกใบอนุญาตและการตรวจสอบที่เข้มงวด และไม่อนุญาตให้ใช้สินทรัพย์โตชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของไนจีเรีย (SEC) ได้ออกกฎเกณฑ์ควบคุมสินทรัพย์คริปโตเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น กำหนดให้คริปโตเป็นหลักทรัพย์ (securities) ตั้งแต่เริ่มต้น

คุณ Stephany Zoo จาก Bitpesa ตลาดซื้อขายคริปโตในเคนยา เห็นด้วยกับการคุ้มครองผู้บริโภคจากกฎระเบียบที่เข้มงวด

มันสำคัญยิ่งเมื่อวงการนี้ได้รับการกำกับดูแล และได้รับคำแนะนำอย่างเหมาะสมจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและคุ้มครองผู้บริโภค

แต่คุณ Reitz เตือนว่า กฎเกณฑ์ควบคุมที่เข้มงวดและหนักหน่วงอาจขัดขวางนวัตกรรมในวงการก็ได้

 สิ่งที่เราอยากเห็นก็คือแนวทางแบบค่อยเป็นค่อยไป มันอาจเป็นเรื่องง่ายมากที่หน่วยงานกำกับดูแลต้องการควบคุมอุตสาหกรรมทั้งหมดแบบทันทีทันใด แต่มันอาจขัดขวางนวัตกรรม หากทางการกำกับดูแลด้วยแนวที่ดีกว่า ก็มีโอกาสบูรณาการเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบเก่าได้มากขึ้น และเมื่อนำไปใช้งานกลายเป็นที่ยอมรับมากขึ้นเช่นกัน

ที่มา :   cointelegraph.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต

Sponsorspot_img
spot_img
spot_img
spot_img
ติดตาม Siambitcoin

ข่าวล่าสุด