คุณ Christopher Giancarlo อดีตประธาน CFTC แย้งว่า CFTC เป็นหน่วยงานกำกับดูแลเพียงแห่งเดียวในสหรัฐฯ ที่มีประสบการณ์กำกับควบคุม Bitcoin และคริปโต
ท่ามกลางกระแสสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) กำลังขยายขอบเขตกำกับควบคุมวงการคริปโตเคอร์เรนซี คณะกรรมการ CFTC เห็นแย้งว่า กฎเกณฑ์ควบคุมคริปโตไม่ได้ตกอยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของ ก.ล.ต.สหรัฐฯ
คุณ Brian Quintenz คณะกรรมการ CFTC โพสต์ผ่าน Twitter เมื่อวันพุธ ประกาศว่าคริปโตเคอร์เรนซีอย่างเช่น Bitcoin (BTC) ควรถูกกำกับควบคุมโดย CFTC มากกว่า SEC
คุณ Quintenz เน้นย้ำว่าคริปโตเคอร์เรนซีเป็นสินค้าโภคภัณฑ์และอยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลของ CFTC เมื่อเทียบกับหลักทรัพย์ที่อยู่ภายใต้ SEC
เพื่อให้เราทุกคนชัดเจนในเรื่องนี้ SEC ไม่มีอำนาจเหนือสินค้าโภคภัณฑ์หรือการซื้อขายเหล่านี้ ไม่ว่าสินทรัพย์เหล่านั้นจะเป็นข้าวสาลี ทองคำ น้ำมัน…หรือสินทรพย์คริปโตก็ตาม
คำแถลงของคุณ Quintenz เกิดขึ้นเพียงครึ่งชั่วโมงหลังจากคุณ Christopher Giancarlo อดีตประธาน CFTC ได้ออกแถลงการณ์บน Twitter คล้าย ๆ กันนี้ โดยอ้างว่า CFTC เป็นหน่วยงานกำกับดูแลเพียงแห่งเดียวของสหรัฐฯ ที่มีประสบการณ์ในการกำกับควบคุมตลาด Bitcoin และคริปโต
“หากรัฐบาลไบเดนจริงจังกับกฎระเบียบคริปโตเคอร์เรนซีจริงแล้วหล่ะก็ จำเป็นต้องเรียกหาประธาน CFTC” คุณ Giancarlo เน้นย้ำ
คณะกรรมาธิการสภาคองเกรสสหรัฐ ได้สนับสนุนคำแถลงของคุณ Quintenz โดยโพสต์ Twitter อย่างเป็นทางการว่า คริปโตนั้น “ใหญ่กว่าอำนาจของ ก.ล.ต. (SEC)” และสภาคองเกรส “จำเป็นต้องเขียนกฎขึ้นมาเพื่อคุ้มครองนักลงทุนและนวัตกรรมในเศรษฐกิจดิจิทัล”
เห็นได้ชัดเจนว่าคำแถลงเหล่านี้ตอบสนองต่อข้อสังเกตล่าสุดต่อประธาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ เนื่องจากคุณ Gary Gensler เรียกร้องให้กำกับควบคุมวงการคริปโตมากขึ้น โดยขยายขอบเขตไปยังตลาดซื้อขายคริปโต คุณ Gensler รายงานว่า มีการพูดคุยมากมายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลว่าประเภทใดควรอยู่ภายใต้อำนาจของ ก.ล.ต. เนื่องจากก่อนหน้านี้ หน่วยงานเคยยืนยันว่าคริปโตเคอร์เรนซีสกุลหลัก ๆ อย่างเช่น Bitcoin และ Ether นั้นไม่ใช่หลักทรัพย์ (Securities)
ที่มา : cointelegraph.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต
