เศรษฐกิจของสาธารณรัฐตุรกีและสกุลเงินลีราตุรกีซึ่งเป็นสกุลเงิน fiat ของประเทศ ยังคงประสบกับภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 36% ตั้งแต่ปี 2021 สูญเสียมูลค่าไปกว่า 44% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะเดียวกันอัตราการถือครอง stablecoin ในตุรกีพุ่งสูงขึ้น
อัตราเงินเฟ้อในตุรกีพุ่งสูงขึ้นทำลายสถิติในรอบ 19 ปี
รายงานจากสถาบันสถิติตุรกีมีรายละเอียดว่าอัตราเงินเฟ้อในตุรกีเพิ่มขึ้นถึง 36% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 19 ปี รายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์อธิบายว่า ในช่วงเดือนธันวาคมราคาผู้บริโภคพุ่งสูงถึง 13.58%
ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ลีราตุรกีสูญเสียมูลค่าไปกว่า 44% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันไม่เคยสูงขึ้นจนกระทั้ง Tayyip Erdoğan เข้ามาดำลงตำแหน่ง เมื่อไม่กี่วันก่อนธนาคารกลางของประเทศตุรกีแนะนำให้ประชาชนเปลี่ยนทองคำเป็นเงินฝากประจำลีรา
ธนาคารกลางของตุรกีได้ลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของประเทศลงสี่เดือนติดต่อกัน การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางเดือนธันวาคมทำให้ลีราตุรกีร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 15.5 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ในปี 2021 ความต้องการ bitcoin (BTC) ในตุรกีเพิ่มขึ้นอย่างมาก คิดเป็น 0.69% ใช้เพื่อซื้อขาย BTC และอีก 0.72% ใช้เพื่อแลกเปลี่ยน ETH
ความต้องการของประชากรในประเทศตุรกีมองว่า stablecoins มั่นคงกว่า BTC และ ETH ในสถานการณ์ปัจจุบันนั้น จากข้อมูลเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2021 พบว่า มีการซื้อสกุลลีราตุรกี (TRY) กับเหรียญ stablecoins เพิ่มขึ้น โดยมากที่สุดคือ tether (USDT)
จากข้อมูลสถิติพบว่าตุรกีไม่ได้ถือ USDC มากนัก เนื่องจากมีเพียงแค่ 0.36% ของการถือครอง USDC ทั้งหมดในปัจจุบัน
จากรายงานแสดงให้เห็นว่า ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นมีส่วนทำให้ประชาชนส่วนใหญ่หันมาซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแทนที่การฝากธนาคาร
ตัวชี้วัดระบุว่าอัตราเงินเฟ้อของตุรกีเกิดจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงค่าขนส่ง ค่าอาหารและเครื่องดื่ม และของใช้ในครัวเรือน “มีราคาพุ่งสูงขึ้น” เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
นอกเหนือจากการซื้อทองคำแล้วประธานาธิบดี Erdoğan ยังได้เรียกร้องให้ธุรกิจตุรกีและมหาเศรษฐีช่วยกันปกป้องสกุลเงินของประเทศ
ประธานาธิบดี Erdoğan กล่าวว่า “ตราบใดที่เรานำเงินของเราเองมาเป็นเกณฑ์มาตรฐาน มีแต่จะทำให้เราตกต่ำลง ลีราตุรกีเป็นเงินของเรา นั่นคือสิ่งที่เราจะดำเนินการต่อไป ไม่ใช่ด้วยสกุลเงินต่างประเทศ”
ที่มา : news.bitcoin.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram