Stripe ยักษ์ใหญ่ด้านฟินเทค ในซานฟรานซิสโก เปิดตัวโครงการนำร่องบน Twitter ซึ่งช่วยให้ครีเอเตอร์ที่ผ่านการคัดกรองสามารถส่งและรับการชำระเงินในสกุล USDC
โครงการนำร่องใหม่ของ Stripe จะอนุญาตให้ครีเอเตอร์ที่ได้รับเลือก ส่งและรับการชำระเงินใน USDC ผ่านแพลตฟอร์มการชำระเงิน Connect โดยครีเอเตอร์สามารถจัดการรายละเอียดบัญชีได้โดยตรงผ่านแอพ Stripe Express
บริษัทระบุในบล็อกโพสต์ว่า Twitter จะเป็นบริษัทแรกที่รวมวิธีการชำระเงินใหม่เข้ากับผลิตภัณฑ์การสร้างรายได้ ซึ่งช่วยให้ครีเอเตอร์รับรายได้จาก Ticketed Spaces และ Super Follows ที่รับชำระผ่านกระเป๋าเงินดิจิตอลได้ในทันที
“ความซับซ้อนและการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับคริปโตทั้งหมด” บริษัท Stripe จะเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ดังนั้น Twitter จะไม่รับผิดชอบในการจัดเก็บและรับ cryptocurrencies ใดๆ
บริษัทฟินเทค เลือกใช้เครือข่าย Polygon เพื่อประมวลผลธุรกรรมออนไลน์ทั้งหมด เนื่องจากมี “ค่าธรรมเนียมก๊าซต่ำ ความเร็วสูง ความเข้ากันได้ของกระเป๋าเงินแบบกว้าง และการรวมเข้ากับ Ethereum” ผู้สร้างที่ได้รับเงินผ่านโปรแกรมนี้สามารถเชื่อมโยงสินทรัพย์ของตนกับ Ethereum และแลกเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วสำหรับ cryptocurrencies อื่น ๆ
แม้ว่าบริษัทจะรองรับการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล USDC เท่านั้นในขณะนี้ แต่ก็ให้คำมั่นกับผู้ใช้ว่าจะเพิ่มการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ในอนาคต บริษัทถือว่าเสถียรภาพด้านราคาของ USDC นั้นแตกต่างจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ที่มีความผันผวนสูง
ตามที่ปรากฏในบล็อกโพสต์ Stripe ระบุว่า บริษัทวางแผนที่จะสนับสนุนการชำระเงินด้วย crypto กว่า 120 ประเทศทั่วโลก ภายในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งหลักอย่าง Block, PayPal และ Visa ที่ได้ร่วมมือกับบริษัทคริปโตและ Exchange จำนวนมากก่อนที่สินทรัพย์ดิจิทัลจะได้รับความนิยม บริษัทยังถือว่าตน “ล้าช้า” กว่าเจ้าอื่น
Stripe กลับสู่วงการ Crypto
เมื่อปีที่แล้ว คุณ John Collison ซีอีโอของ Stripe ได้บอกเป็นนัยว่าบริษัทของเขาจะเปิดให้บริการคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) อีกครั้งในไม่ช้า ซึ่งก่อนหน้านั้นบริษัทได้ยกเลิกบริการ Bitcoin ในปี 2018 เนื่องจากความกังวลเรื่องความผันผวนของราคาและความไร้ประสิทธิภาพในการทำธุรกรรม
หลังจากระดมทุนได้ 600 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ปัจจุบัน Stripe มีมูลค่าอยู่ที่ 95 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2021 บริษัทดำเนินการชำระเงินจำนวน 640 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อนหน้า
ที่มา : cryptopotato.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram
