ผู้บริหาร Visa ชี้ ‘ธนาคารกลางไม่สนใจดำเนินการสกุลเงินดิจิทัลสำหรับผู้บริโภคอย่างจริงจัง’

ผู้บริหาร Visa บอกว่า โซลูชั่นสกุลเงินดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคโดยตรงจะไม่ถูกดำเนินการอย่างจริงจังจากธนาคารกลาง

1/ One of the biggest questions that I have about central bank digital currency (CBDC) is what do central banks want consumers to perceive as the core value proposition of CBDC?

— Cuy Sheffield (@cuysheffield) May 17, 2020

คุณ Cuy Sheffield ประธานฝ่ายคริปโตของ Visa ทวีต เมื่อวันที่ 18 เมษายน เขาไม่เชื่อว่าธนาคารกลางจะสนใจดำเนินการ CBDC สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารโดยตรงต่อผู้บริโภค

 หากธนาคารกลางตัดสินใจนำเสนอกระเป๋าเงินดิจิทัลโดยตรงแก่ผู้บริโภคด้วย CBDC แล้วธนาคารกลางจะกลายเป็นแบรนด์ทั่วไป แต่แนวทางนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับความสนใจอย่างจริงจังจากธนาคารกลางส่วนใหญ่ เนื่องจากต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ

คุณ Sheffield ตั้งข้อสังเกตจากรายงานของบริษัทบล็อกสำหรับองค์กร R3 เห็นได้ชัดเจนว่า ไม่มีธนาคารกลางใดในปัจจุบันที่กำลังทำงานด้าน CBDC แล้วผู้บริโภคสามารถใช้งานได้เลย

สกุลเงิน CBDC 2 ประเภท

คุณ Sheffield มองเห็น 2 แนวทางในการนำ CBDC มาใช้งาน แนวทางที่หนึ่ง โซลูชั่นสำหรับผู้บริโภคใช้งานคล้ายกับเงินสด ส่วนแนวทางที่สอง โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชำระเงิน (เพย์เมนต์) แบบเรียลไทม์สำหรับธนาคารต่าง ๆ

8/ This would be particularly difficult to explain if CBDC is designed in a way that doesn't allow a consumer to do anything different than they could with an app like Venmo connected to their existing digital deposits at their bank

— Cuy Sheffield (@cuysheffield) May 17, 2020

ในกรณีของโซลูชั่นเงินสดดิจิทัล คุณ Sheffield ตั้งข้อสงสัยว่า ธนาคารกลางจะอธิบายข้อแตกต่างระหว่าง CBDC และเงินฝากดิจิทัลที่ธนาคารพาณิชย์แก่ผู้บริโภคอย่างไร เขาบอกว่า

เรื่องนี้ยากที่จะอธิบาย เมื่อ CBDC ออกมาในลักษณะที่ไม่อนุญาตให้ผู้บริโภคทำอะไรแตกต่างจากแอพอย่างเช่น Venmo เชื่อมต่อกับเงินฝากดิจิทัลที่ธนาคาร

9/ If a central bank wants consumers to differentiate between "digital cash" and "digital deposits" then CBDC may need to have unique features that deposits don't. Some level of anonymity and offline payments are two that are possible but is that enough to drive consumer demand?

— Cuy Sheffield (@cuysheffield) May 17, 2020

คุณ Sheffield อธิบายว่า เพื่อสร้างความแตกต่างแก่ผู้บริโภค CBDC จำเป็นต้องมีคุณสมบัติที่เงินดิจิทัลไม่สามารถทำได้ อย่างเช่น การเปิดเผยตัวตนที่จำกัด และการชำระเงินแบบออฟไลน์ มิฉะนั้นผู้บริโภคจะไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างระบบชำระเงินแบบเดิมกับ CBDC

ทางเลือกอื่น ๆ ก็คือ เพียงกล่าวว่า ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องทราบความแตกต่างระหว่าง ‘เงินสดดิจิทัล’ และ ‘การเงินฝากดิจิทัล’ ไม่ต่างจากที่พวกเขาเข้าใจความแตกต่างระหว่าง FedNow และ TCH payment rails

ในแนวทางที่สองนั้น CBDC ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงิน คุณ Scheffield บอกว่า ระบบภูมิทัศน์สกุลเงินจะทำหน้าที่เป็นหลักพื้นฐานให้บริษัทสามารถสร้างกระเป๋าเงินและบริการของพวกเขาได้

ในกรณีนี้ ผู้บริโภคไม่ต้องเกี่ยวข้องฟังก์ชันของธนาคารกลาง แต่จะใช้กระเป๋าเงินของบริษัทและบริการเพย์เมนของพวกเขาแทน

ผู้บริโภคจะมีความสัมพันธ์กับกระเป๋าเงินของฟินเทค แล้วใช้งานขึ้นอยู่กับแบรนด์และฟีเจอร์ของกระเป๋าเงินมากกว่าฟีเจอร์และโครงสร้างความรับผิดชอบของเงินพื้นฐานที่มันถูกสร้างขึ้น

Visa สนใจสกุลเงินดิจิทัลอย่างชัดเจน

Visa แสดงความสนใจเทคโนโลยีบล็อกเชน คริปโตเคอร์เรนซี และสกุลเงินดิจิทัลอย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น เมื่อเร็ว ๆ นี้ Visa ได้ยื่นจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลต่อสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าในสหรัฐฯ

ที่มา :   cointelegraph.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต