การศึกษาล่าสุด พบว่า ChatGPT แชตบอท AI (artificial intelligence) มีข้อจำกัดในการให้ข้อมูลที่ปรับให้เหมาะสมกับท้องถิ่นเกี่ยวกับปัญหาความยุติธรรมทางสิ่งแวดล้อม (environmental justice)
มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียเทค (Virginia Tech) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ได้เผยแพร่รายงานสรุปถึงอคติที่อาจเกิดขึ้นใน ChatGPT เครื่องมือ AI โดยเสนอแนะผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในประเด็นความยุติธรรมทางสิ่งแวล้อมในเทศมณฑลหรือเคาน์ตีต่าง ๆ
ในรายงานดังกล่าว นักวิจัยจาก Virginia Tech กล่าวหาว่า ChatGPT มีข้อจำกัดในการส่งข้อมูลเฉพาะพื้นที่เกี่ยวปัญหาความยุติธรรมทางสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ การศึกษาระบุว่าแนวโน้มบ่งชี้ว่าข้อมูลดังกล่าวพร้อมกว่าสำหรับรัฐขนาดใหญ่กว่าและมีประชากรหนาแน่นกว่า
ในรัฐที่มีประชากรในเมืองใหญ่ เช่น เดลาแวร์หรือแคลิฟอร์เนีย มีประชากรน้อยกว่า 1 เปอร์เซนต์ที่อาศัยอยู่ในเคาน์ตีไม่สามารถรับข้อมูลเฉพาะเจาะจงได้
ขณะเดียวกัน ภูมิภาคที่มีประชากรน้อยกว่าก็ขาดการเข้าถึงที่เท่าเทียม
“ในรัฐชนบท เช่น ไอดาโฮ และนิวแฮมป์เชียร์ ประชากรมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์อาศัยที่อยู่ในเคาน์ตีไม่สามารถรับข้อมูลเฉพาะของท้องถิ่นได้” รายงานระบุ
นอกจากนี้ ยังอ้างถึงอาจารย์ Kim จากภาควิชาภูมิศาสตร์ของเวอร์จิเนียเทค โดยเรียกร้องให้มีการวิจัยเพิ่มเติมเมื่อมีการค้นพบอคติดังกล่าว
“แม้ว่าจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม แต่การค้นพบของเราเผยให้เห็นว่าปัจจุบันมีอคติทางภูมิศาสตร์ในโมเดล ChatGPT ” Kim กล่าว
เอกสารวิจัยดังกล่าว ยังผนวกแผนที่แสดงขอบเขตประชากรสหรัฐฯ ที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเฉพาะสถานที่เกี่ยวกับประเด็นความยุติธรรมทางสิ่งแวดล้อม
แผนที่สหรัฐฯ แสดงพื้นที่ผู้อยู่อาศัยที่สามารถดู (สีน้ำเงิน) หรือไม่สามารถดู (สีแดง) ข้อมูลเฉพาะของท้องถิ่นเกี่ยวกับประเด็นความยุติธรรมทางสิ่งแวดล้อม ที่มา: Virginia Tech
ที่มา : cointelegraph.com
