ราคา Bitcoin ที่ร่วงลงอย่างฉับพลัน 5% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้เหล่านักเทรดฟิวเจอร์ที่ใช้เลเวอเรจ (leverage) พากันเสียหายครั้งใหญ่ โดยขาดทุนรวมกันกว่า 165 ล้านดอลลาร์ ภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง
ข้อมูลจาก TradingView ระบุว่าราคา Bitcoin ร่วง 5% จาก 69,450 ดอลลาร์ มาอยู่ที่จุดต่ำสุด 65,970 ดอลลาร์ ภายในช่วง 30 นาทีต้นชั่วโมงของวันที่ 2 มีนาคม 2024 ตามเวลามาตรฐานสากล (UTC)
ข้อมูลจาก Coinglass เผยว่าการปรับลดลงอย่างรวดเร็วของ Bitcoin ทำให้สถานะ Long (ถือครองเพื่อทำกำไรจากราคาขึ้น) กว่า 165 ล้านดอลลาร์ถูกชำระล้าง (Liquidate) โดยมี Bitcoin Long กว่า 50 ล้านดอลลาร์ และ Ether Long กว่า 40 ล้านดอลลาร์ ที่เป็นส่วนสำคัญของยอดขาดทุน
นอกจากนี้ยังมี Long ของ Dogecoin ในมูลค่าราว 6 ล้านดอลลาร์ และ Solana (SOL) 4 ล้านดอลลาร์ถูกชำระล้างตาม BTC และ ETH ไปด้วย
ประมาณช่วงเวลาเดียวกัน ข้อมูลจาก FarSide เผยว่า Bitcoin ETF (กองทุนรวมที่ลงทุนใน Bitcoin) มีเม็ดเงินไหลออกสุทธิ 86 ล้านดอลลาร์ ทำลายสถิติเงินไหลเข้าเป็นบวกต่อเนื่อง 4 วัน
ETF ของ BlackRock มีผลงานโดดเด่นที่สุด โดยมียอดเงินไหลเข้าสุทธิ 165.9 ล้านดอลลาร์ ส่วน Fidelity ตามมาเป็นอันดับสองที่ 44 ล้านดอลลาร์
ทว่าเงินที่ไหลเข้าทั้งหมดถูกถ่วงด้วย GBTC ของ Grayscale ที่มีเงินไหลออกจำนวนมากถึง 302 ล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดเงินไหลออกสุทธิของทุกกองทุนรวมกันอยู่ที่ 85.7 ล้านดอลลาร์
Tether หลุด Peg ในช่วงที่ Bitcoin เกิดเหตุการณ์ flash crash มูลค่าของ Tether ซึ่งเป็น Stablecoin ที่มีมูลค่าตรึงกับดอลลาร์สหรัฐฯ ก็เกิดการผันผวนราว 1% จนหลุดจากจุดตรึงที่ 1 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 0.988 ดอลลาร์ชั่วคราว ตามข้อมูลของ CoinGecko
ยังไม่ชัดเจนว่าการหลุด Peg ของ USDT นี้เป็นข้อผิดพลาดของ API ของเครื่องมือติดตามข้อมูลบางอย่าง หรือมูลค่าของเหรียญเกิดลดลงจริง แต่การหลุด Peg นี้ไม่ปรากฏบนตัวติดตามราคาอื่นๆ Cointelegraph ได้ติดต่อไปทาง Tether แต่ไม่ได้รับการตอบกลับทันที
ติดตามข่าวคริปโตก่อนใครได้ที่ https://www.siambitcoin.com/
